[FAN FIC. FELINE] The Last Tear Of Black cat
ส่งแล้วเน้อเพื่อนๆ(ส่งก่อนเฉียดเส้นตาย2วัน เจริญตายล่ะ)- -"
ผู้เข้าชมรวม
1,024
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
FanFic.Feline
[The Last Tear of Black cat]
น้ำตาหยดสุดท้ายของแมวดำ
…รอยแผลบนร่างกาย...มีวันที่จะหาย...
...ตราบใดที่ยังคงมีชีวิตอยู่...
...แต่รอยแผลที่ฝังรากลึกลงไปในหัวใจ...ไม่มีวันหาย...
...แม้ชีวิตนั้นจะหาไม่แล้วก็ตาม...
ดวงจันทร์สีเหลืองนวลลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้า แสงสีทองของมันส่องกระทบนัยน์ตาสีอำพันเป็นปรกายของเด็กหนุ่มผมดำที่ยืนมองมันที่ระเบียง
ใบหน้าหวานยามราตรีดูสวยงามราวเทพธิดา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเศร้าๆให้ตนเอง
...ไม่ว่ากี่ปี...รอยแผลนี้ก็ไม่เคยที่จะหายไป...
มือเรียวยกขึ้นทาบอก
...รอยแผล...ที่เป็นตราบาป!!!...
“ดาร์ก” เสียงนุ่มๆเรียกให้เด็กหนุ่มหันไปมอง เพื่อซี้ที่กำลังเดินถือแก้วนมร้อนๆมาให้
“...”
“เป็นอะไรไป? ฉันเห็นนายนั่งมองดวงจันทร์มาตั้งนานแล้วนะ”
“เฟล...ดวงจันทร์สวยไหม?”
“!” คนถูกถามเอียงคองง? ไม่รู้มันจะเล่นอะไร
“ฉันถามว่าสวยไหม?”
“ก็...สวย”
“หรอ...” ดาร์กเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์อีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปนอน
“อะไรของมันวะ?” เฟลลันมองตามร่างเล็กที่กำลังเดินเข้าห้องไป แต่คำพูดที่ออกจากปากมันในตอนท้ายทำเอาเขาอยากกระโจนไปอัดกับมันให้รู้แล้วรู้รอด
“งั้นนายก็ไปแต่งงานกับดวงจันทร์ซะสิ!”
...หนอย! ... ไอ้หมอนี่!...
~วิ้ว~วิ้ว~
เสียงใบไม้ไหวแผ่วๆยามเมื่อมีสายลมพัดผ่าน ร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มคนหนึ่งหย่อนเท้าลงบนหลังคาบ้านของใครก็ไม่รู้ นัยน์ตาสีหมอกมองตึกสูงเบื้องหน้าอย่างพิจรณา
“ถึงแล้วสินะ” ริมฝีปากบางพึมพำ เมื่อแน่ใจว่าตึกสูงเบื้องหน้าคือที่ตั้งขององค์กร D.E.A.T.H.
“คิดถึงจังเลยแฮะ...ไม่ได้เจอกัน...ตั้งนาน” นัยน์ตาสีหมอกแปรเปลี่ยนเป็นสีมรกต สีแห่งความยินดี เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็วราวกับสายลม
~โครม~
เสียงตกเตียงดังสนั่นพร้อมเอ๊ฟเฟกต์ประกอบที่ชวนปวดหัว
กร๊อบบบ!
ซี่โครงของเฟลลันประท้วงลั่น เมื่อเจ้าเพื่อนตัวดีถีบเขาตกเตียงอย่างไม่ปราณีปราศรัย
“ไอ้ดาร์กกก!!!” เด็กหนุ่มตะโกนหมายหัวพร้อมกับพุ่งตัวหมายจะจับคนตรงหน้ามาลงโทษให้ได้
~ฟึ่บ~
แต่มีหรือที่ร่างเล็กตรงหน้าเขาจะยอมให้ทำอะไรง่ายๆ ดาร์กเอี้ยวตัวหลบเล็กน้อยพร้อมกับเยื่นเท้ามาด้านหน้า...ลูกไม้ตื้นๆ แต่นั่นก็ทำให้อีกคนลงไปนอนวัดพื้นได้อีกรอบ
~โครม~
“ไปอาบน้ำได้แล้ว! ฉันจะไปรอที่ห้องเจ้านาย” เขาพูดเรียบๆแต่ในดวงตาสีอำพันนั้นมีแววสนุกสนานที่ได้แกล้งคนตรงหน้า
“ชิ!” เฟลลันสบถแต่ก็ยอมลุกไปอาบน้ำโดยดี
“หึ!” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องไปยังห้องของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านาย
~แอ๊ด~
“ว่าไง! ดาร์ก”
“ครับ เจ้านาย”
“เจ้าเฟลล่ะ?”
“อาบน้ำครับ”
“หืม?”
~แอ๊ด~
“มาแล้วๆ”
“ดาร์ก! ฉันมีข่าวดีจะบอกนายนะ...”
---เพล้ง---
จู่ๆกระจกด้านหลังเจ้านายก็แตกละเอียด ลมวูบใหญ่พัดเข้ามาในห้อง
...นี่มันชั้น13นะ(เฟ้ย)!!!...
เฟลลันคิดในใจขณะตั้งท่าเช่นเดียวกับดาร์ก
“เฮ้ย! ใจเย็นๆ...นี่! แกจะเข้ามาดีๆเหมือนชาวบ้านเขาบ้างไม่ได้รึไง(ฟะ) ค่าซ่อมกระจกมันแพงนะ(เฟ้ย)! ซิลไวน์...” ชายหนุ่มหันไปพูดกับเด็กหนุ่มผมสีเทาร่างสูงที่เดินออกมาจากกลุ่มหมอกควันพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพึงพอใจกับผลงานที่ตัวเองสร้างวีรกรรมเอาไว้ (เฮ้ย! โรคจิต : คนเขียน) (งั้นเจอมีดซักเล่มไหม หึหึ : ซิลไวน์)
“ไวน์!!” ร่างเล็กของดาร์กวิ่งตรงเข้าไปกอดเด็กหนุ่มด้วยความโหยหา ในขณะที่คนตัวโตกว่ายืนมองอยู่แล้วจู่ๆก็แก้มกระตุก
...ไอ้หมอนี่มันเป็นครายยย!!!...
“ว่าไงดาร์ก! ไม่ได้เจอกันนานนะ” ซิลไวน์ยิ้ม ดวงตาสีหมอกเปลี่ยนเป็นสีมรกต พลางลูบหัวเด็กหนุ่มตรงหน้าเฉกเช่นพี่ชายกำลังลูบหัวน้องสาว เอ๊ย! น้องชาย (พลั่ก อั่ก ผลัวะ : เสียงเอ๊ฟเฟคประกอบคนเขียนโดนดาร์กยำ)
“คิดถึงนายชะมัด...ว่าแต่นายไปอยู่ไหนมาน่ะ?”
“ฉันก็เที่ยวของฉันไปเรื่อยๆแหละ” พลันดวงตาสีมรกตก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนกำหมัดกัดฟันกรอดๆ ดวงตาสีสวยจึงเปลี่ยนเป็นสีอำพันสีแห่งความเจ้าเล่ห์ทันที
“ไวน์! “
“หือ! มีอะไรหรอดาร์ก?” ลำแขนแกร่งดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง คิ้วของเฟลลันกระตุกทันที แต่ดาร์กก็ยังคงไม่รู้เรื่อง
“เดี๋ยวเราไป...”
“ฉันไม่อนุญาต!” เด็กหนุ่มตาดำตวาดทันที เรียกรอยยิ้มขำให้ปรากฏบนใบหน้าสวยของซิลไวน์
“นายรู้หรอ? ว่าฉันกับดาร์กจะไปไหน?”
--กึก—
เฟลลันสะดุดกึก ก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“เออ! จะไปไหนก็เชิญ!” ว่าแล้วมันก็เดินกระแทกส้น(ตีน) ระบายอารมณ์ออกนอกห้องไป
“หึๆๆ ฮ่าๆๆ” พอเด็กหนุ่มคล้อยหลังไป เจ้าคนตาเปลี่ยนสีได้ก็ปล่อยก๊ากทันที
“นิสัยเสียขึ้นนะไวน์” เจ้านายส่ายหัวระอาก่อนจะหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับมาเชล ซิลไวน์จึงหันมาคุยกับดาร์กต่อ
“เดี๋ยวเราออกไปเที่ยวสวนสนุกกันนะ”
“อือ” คนตัวเล็กยิ้มน้อยๆที่มุมปากพลอยทำให้คนตัวโตกว่ายิ้มตามไปด้วย ดวงตาของซิลไวน์เปลี่ยนเป็นสีมรกตอีกครา...สีแห่งความสุข
~ปัง---โครม~
“อ๊ากกก!!! ไอ้หมอนั่นมันเป็นครายยย!!!” เฟลลันโวยวายลั่นหลังจากกลับมานั่งในห้องนอนตัวเองเรียบร้อยแล้ว
...สนิทสนมกับดาร์กซะขนาดนั้น…อ๊ากกก!!!...
“ฉันชื่อซิลไวน์...ยินดีที่ได้รู้จัก”
“แต่ฉันไม่ยินดีด้วยว้อยยย!!!...เฮ้ย! แกเข้ามาได้ไง?!” ดวงตาสีนิลของเฟลลันเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่ตนกำลังกล่าวหานั่งอยู่บนเตียงนอนของดาร์ก
“ก็...เปิดประตูเข้ามาเดะ”
“ไอ้...”
“แล้ว...นายชื่อไรหรอ?”
“เฟลลัน” เด็กหนุ่มกระแทกเสีงตอบ ส่งผลให้ซิลไวน์อมยิ้ม
“เฟลลัน...ขอบใจนะที่ช่วยดูแลดาร์ก” คำพูดชวนงง ทำให้เฟลลันเผลอจ้องดวงหน้าของคนพูดแล้วก็พบว่า...
เฮ้ย!
…ดูท่าไอ้เจ้าคนพูดมันจะยังไม่รู้สึกตัวว่าตอนนี้ตามันเปลี่ยนสีอีกแล้ว...
“นี่! ตานาย...”
“หือ!” ด้วยความตกใจทำให้ดวงตาเปลี่ยนกลับมาเป็นสีหมอกดังเดิม
“ทะ...ทำไมตาแกถึง...”
“...อ๋อ! มันก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าใส่ใจเลย” ซิลไวน์โบกมือพลางยิ้ม
~แอ๊ด~
“ไวน์! ไปกินข้าวกัน เฟล! แกด้วย” พอดีกับที่ดาร์กเป็นประตูมาเรียกเด็กหนุ่มทั้งสองคนอันมีคนหัวเทาและคนหัวน้ำตาล จึงต้องลุกเดินออกไปจากห้อง...
...บาป...ไม่อาจลบเลือนได้ด้วยกาลเวลา...
ดวงตาสีอำพันดูเหม่อลอย จนเด็กหนุ่มผมเทาข้างๆเห็นผิดสังเกต
“ดาร์ก!”
“หือ!”
“เป็นอะไรรึเปล่า?” ดวงตาสีเทาหมอกมองมาอย่างเป็นห่วง ดาร์กฝืนยิ้มให้ซิลไวน์ แต่รอยยิ้มที่ฝืนนั่นทำให้จู่ๆ ดวงตาสีหมอกก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินหม่นทันที
“...นายยังไม่ลืม...เรื่องนั้นอีกหรอ?ดาร์ก ฉันลืมไปนานแล้วนะ…”
“โกหก…ใครจะลืมกัน”
“ดาร์ก!” ดวงตาสีอำพันของดาร์กเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ซิลไวน์เอื้อมมือไปลูบหัวเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา
“เดี๋ยวฉันมานะ” ดาร์กเดินผละออกไป...ดวงตาสีน้ำเงินหม่นของซิลไวน์มองตามร่างของเด็กหนุ่มที่เดินหายไป ก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอ่ยกับเด็กหนุ่มอีกคนที่ยังนั่งอยู่ข้างกาย
“เฟล...”
“!”
“นาย..อยู่กับดาร์กมานานหรือยัง”
“หืม! ก็นานพอสมควรนะ”
“หรอ...”
“...นายเป็นไรไปน่ะไวน์?” เฟลลันถามพลางเอียงคอฉงน
“เปล่า...แล้วนายเคยรู้ไหม? ว่าดาร์กมันมีรอยแผลลึกในใจที่ยากเกินเยียวยา"
"..."
---สวนสนุก---
ดวงตาสีหมอกของไวน์เปลี่ยนเป็นสีขาวด้วยความกังวล เนื่องจากเด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงเค้าลางมรณะที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
"ไวน์!" ดาร์กวิ่งเข้ามาพร้อมกับตั๋วสองใบในมือ มีเฟลลันเดินตามหลังมา ดวงตาสีขาวจึงกลับมาเป็นสีหมอกอีกครั้ง
"หืม! จะเล่นอะไรล่ะ...รถไฟเหาะ..เป็นไง?" ดาร์กเหยียดยิ้มพลางเหลือบตามองเพื่อนร่างสูงข้างตัวที่หน้าเริ่มซีด
"ฉันว่าอย่า..."
"กลัวหรอเฟล..."
"ใครว่าฉันกลัว! เล่นก็เล่น!"
...แล้วแกจะเสียใจเฟลลัน...
"ว้ากกก!!!" เฟลลันแหกปากลั่นเมื่อรถไฟนรกเคลื่อนออกจากชานชลา ผิดกับคนที่นั่งร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี
"มีหนึ่งศพ...ตบปาก...ลากตับ...สับม้าม...จามไต...ไส้ทะลัก...ควักลูกตา...กร๊ากกก!!!" (มันร้องเพลงอะไรหว่า = = :คนเขียน)
"แกหยุดร้องเดี๋ยวนี้นะไวน์!!!"
"กร๊ากกก!!! จกลิ้นปี่...บี้ท้อง...ดองกระดูก...ขูดมดลูก(หาพ่อเอ็งดิ!!!)...กร๊ากกก!!!"
"อ๊ากกก! ไอ้ไวน์!!!"
อ้วก!
"หึหึ!"
"ไม่ต้องมาหัวเราะเลยแก"
"ฮ่าๆๆ"
"ไม่เป็นมั่งให้มันรู้ไปไอ้ไวน์!"
"กร๊ากกก!!!"
"พอเถอะน่า!" ดาร์กปรามไอ้คนตาเปลี่ยนสีได้ก่อนจะลูบหลังเฟลลันที่โก่งคออ้วกอยู่ที่ม้านั่ง
...นักฆ่าอะไรวะ!...ความดันต่ำ!...
--วูบ--
สายลมที่พัดผ่านเย็นยะเยือกผิดปกติจนซิลไวน์ต้องขมวดคิ้ว
"ดาร์ก! พาเจ้าเฟลกลับองค์กรไปก่อนได้เลยนะ ฉันมีธุระน่ะ"
"อ่ะ!...อืม" เมื่อได้รับคำสัญญาแล้วเด็กหนุ่มเจ้าของผมสีเทาหมอกก็เดินออกไป...
-ฟุ่บ-
“ออกมาเถอะน่า...ฉันไม่หนีหรอก” เจ้าของดวงตาที่เปลี่ยนสีได้เอ่ยอย่างไม่ชอบใจ เมื่อแขกที่เป็นผู้เชิญเขาออกมาไม่ยอมโผล่หน้าออกมาซะที
~ครืด~ครืด~
เสียงลากเท้าอย่างจงใจดังขึ้นเบื้องหลังของซิลไวน์ เด็กหนุ่มหันไปประจันหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“ไม่ได้เจอกันนานนะ...ไวน์”
“...อือ...นับตั้งแต่วันที่นายฆ่าพี่สาวฉัน...”
“หือ! คนที่ฆ่าพี่สาวนายน่ะมันเด็กที่ชื่อ...ดาร์กไม่ใช่หรอ? หึหึ”
-ปึ่ด-
เส้นประสาทของซิลไวน์ขาดผึ่งทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นออกจากปากของเด็กหนุ่มผมทอง
“อย่ามาว่าดาร์กนะ”
“แตะต้องไม่ได้เลยสินะ หึหึ”
“แก!” ดวงตาสีหมอกแปรเปลี่ยนเป็นสีเพลิงด้วยอำนาจแห่งความกราดเกรี้ยว ไฟโทสะบดบังดวงตาของซิลไวน์จนหมดสิ้น
“คนที่ฆ่าพี่สาวฉัน มันจะต้องลงนรกวันนี้แหละ!”
“คนที่ทำลายองค์กรของฉัน มันจะต้องชดใช้เช่นกัน!”
เด็กหนุ่มทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้าประทะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มีดสั้นสีดำขลับของซิลไวน์กับดาบสีเงินสวยของเด็กหนุ่มผมทอง
“วันนี้คือวันตายของแก อังเดร “ แรงประทะของทั้งคู่สูสีกัน แต่ซิลไวน์ใช้แค่เพียงมีดสั้นเท่านั้น
“แกต่างหาก! ไม่ใช่ฉัน!!!” ดวงตาสีอเมธิสต์ของเด็กหนุ่มผมทองวาวโรจน์ ซิลไวน์แสยะยิ้ม
“...แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
~เคร้ง!~
~เพล้ง~
แก้วที่อยู่ในมือของเด็กหนุ่มผมดำร่วงหล่นลงกับพื้นแตกกระจาย ดวงตาสีอำพันเบิกกว้าง
“...ไวน์!” ดาร์กสังหรณ์ใจยังไงชอบกลก่อนจะออกวิ่งไปทันที จนแม้แต่เฟลลันที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ยังงง
“ดาร์ก! จะไปไหนน่ะ?” คนตรงหน้าไม่ตอบทำให้เขาต้องวิ่งตามไปอีกคน
~เคร้ง~เคร้ง~
ดาบสีเงินสวยร่วงหล่นลงกับพื้น การต่อสู้จบลงแล้ว...ซิลไวน์เหยียดยิ้มสมเพช
“มันจบแล้ว...อังเดร”
“ไวน์! “ เสียงร้องเรียกดังลั่นด้วยความเป็นห่วง ร่างของเด็กหนุ่มผมดำที่เขาคุ้นตากำลังวิ่งตรงมาหาเขา
“มันยังไม่จบหรอก...ไวน์” เสียงแหบพร่าดังขึ้นข้างหู ซิลไวน์กระตุกวูบก่อนจะเอี้ยวตัวหลบคมดาบ แต่มันก็สายเกินไป
ฉึก!
ตัวดาบสีเงินสวยฝังลึกลงไปในผิวขาวของซิลไวน์ ดวงตาสีเพลิงเปลี่ยนเป็นสีฟ้าด้วยความตกใจ
“ไวน์!!!” ดาร์กร้องเสียงหลงพลางวิ่งถลาจะเข้ามาดู แต่กลับถูกเฟลลันรั้งเอาไว้
~ฉวัะ~
อังเดรกระชากดาบออกจากร่างของซิลไวน์อย่างไม่ใยดี ร่างสูงค่อยๆล้มลงกับพื้น
~โครม~
“ไวน์!” ดาร์กกระชากแขนตัวเองออกจากมือของเฟลลันได้สำเร็จก็ถลาเข้าไปดูอาการเพื่อนก่อนจะหันมาประจันหน้ากับเด็กหนุ่มผมทองที่เป็นคนแทง
“...อังเดร...” ริมฝีปากบางพึมพำ
“ขอบใจที่ยังจำกันได้...ดาร์ก” อังเดรเหยียดยิ้ม
“...” เฟลลันได้แต่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ เขาฟังเรื่องตราบาปของดาร์กมาจากเจ้านายบ้างแล้ว และตอนที่ซิลไวน์นั่งกินข้าวกับเขา...หมอนั่นก็เล่าให้เขาฟังอย่างละเอียด
ก่อนที่เจ้านายจะมาเจอและเก็บดาร์กไปเลี้ยง ดาร์กเคยอาศัยอยู่กับครอบครัวของไวน์ที่เป็นเด็กกำพร้า ซิลไวน์มีพี่สาวอยู่คนหนึ่งชื่อว่าซิลเวียร์
เมื่อก่อนองค์กรมาเฟียเล็กๆยังไม่ถูกปราบปราม ซิลไวน์และดาร์กจึงต้องเรียนศิลปะป้องกันตัวเอาไว้เพื่อปกป้องซิลเวียร์
ดาร์กกับไวน์เคยบุกไปถล่มแก๊งมาเฟียแก๊งหนึ่ง ซึ่งหัวหน้าแก๊งเป็นเพียงเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ทั้งสองคนชนะ และยุบแก๊งมาเฟียนั้นไป แต่ต่อมาไม่นาน ระหว่างที่ทั้งสองคนออกไปหางานทำในตัวเมือง พวกมาเฟียที่ผูกใจเจ็บ ได้รวมตัวกันมาถล่มบ้านของพวกเขาซึ่งในตอนนั้น มีซิลเวียรือยู่เพียงคนเดียว
เมื่อดาร์กกับไวน์กลับมาถึงก็ได้ต่อสู้กับพวกมันจนดาร์กเกือบจะพลาดท่า ซิลเวียร์ที่เข้ามารับคมดาบแทนจึงต้องตาย
เหตูการณ์ครั้งนั้น ทั้งซิลเวียร์และซิลไวน์ไม่เคนคิดโทษโกรธเคืองดาร์ก แต่เจ้าตัวกลับรู้สึกผิดอย่างมหันต์ หลังเสร็จงานศพของซิลเวียร์ จึงไม่มีใครเห็นเด็กหนุ่มอีกเลย...จนกระทั่ง ซิลไวน์ที่ทำงานให้กับองค์กรD.E.A.T.H. ได้รับจดหมายเรียกตัวให้ไปที่องค์กร เขาได้พบภาพของเด็กหนุ่มวัยสิบปีที่กำลังฝึกซ้อมอย่าขะมักเขม้น มันเป็นภาพที่ทำให้ซิลไวน์ยิ้มออก ...ดาร์กสบายดี...เขาไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีก...แต่ซิลไวน์กลับลืมเรื่องสำคัญอีกอย่างไป...เขาลืมไป...ว่าตราบาป...ไม่เคยหายไปด้วยกาลเวลา...
~เคร้ง~
เสียงดาบสีเงินประทะมีดสั้นสีเงินสวยของดาร์กเรียกสติเฟลลันให้กลับมาสู่ความเป็นจริง เขามองเห็นซิลไวน์กำลังพยุงตัวเองขึ้นอย่างยากลำบากจึงวิ่งเข้าไปช่วย
“เฟล...” คนหัวเทาเรียกเสียงแผ่วทำเอาเขาใจไม่ค่อยดี
“อะไร!”
“ไปหยุดดาร์ก มันสู้กับอังเดรไม่ได้หรอก” เฟลลันมองหน้าคนเจ็บอย่างชั่งใจแต่สุดท้ายก็ต้องไปเพราะสายตาที่เอาจริงของซิลไวน์
~พลั่ก~
โอ๊ย!
ดาร์กกุมท้องที่โดนต่อยอย่างจังพลางเอี้ยวตัวหลบดาบที่ฟันลงมา
~เคร้ง~
มีดสั้นสีดำขลับของใครบางคนพุ่งเข้ามาได้ทันก่อนที่ดาบนั้นจะโดนตัวเขา ซิลไวน์เดินกุมแผลที่สีข้างเข้ามาอย่างทุลักทุเล
“การต่อสู้ของฉันนายไม่เกี่ยว...ดาร์ก”
“แต่ว่า!”
“ไม่มีแต่...เฟล...มาเอาดาร์กออกไป” เด็หนุ่มเจ้าขจองดวงตาสีนิลรีบวิ่งมาอุ้มคนตัวเล็กออกไป โดยมีสายตาของซิลไวน์มองตาม
“ห่วงจังนะ แต่...ไม่ต้องห่วงไปหรอกเพราะส่งแกลงนรกเสร็จฉันก็จะส่งเจ้านั่นตามไป” คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ซิลไวน์แสยะยิ้ม
“ถ้าทำได้ก็เอาสิ” ร่างกายของเด็กหนุ่มถูกเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วจนไปอยู่ประชิดตัวของอังเดรเพียงเวลาไม่กี่วินาที มีดสั้นสีดำขลับจ้วงลงไปที่ตำแหน่งหัวใจแต่ฝ่ายโน้นหลบได้มันจึงพลาดไปปักที่ท้องแทน
ฉึก!
ร่างสูงของอังเดรเริ่มกระตุก เมื่อซิลไวน์ดึงมีดออก ร่างของเด็กหนุ่มก็ล้มลง
~โครม~
“แฮ่ก-แฮ่ก” เสียงหอบหายใจเป็นระยะดังขึ้นทันทีที่เด็กหนุ่มเอามือยันพื้นเพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้ม ซิลไวน์เริ่มรับรู้ถึงผลข้างเคียงที่เขาได้ฝืนใช้ความเร็วทั้งๆที่ร่างกายแย่ เลือดไหลตามบาดแผลเป็นทางยาวทั้งแผลเล็กและเเผลใหญ่่่
่
"อึ่ก! แก!" เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ายังไม่ตายซิลไวน์ก็เตรียมที่จะแทงซ้ำ แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะรู้จึงแทงสวนเข้ามา
ฉึก!
เนื่องจากระยะที่ห่างกันทำให้มีดสั้นของซิลไวน์เสียเปรียบ เขาจึงเลือกที่จะเสี่ยง...
...ด้วยการปามีดไปที่ตำแหน่งหัวใจ!...
"อึ่ก! ซิลไวน์แก!..."
"พอเถอะ...ไปสบายได้แล้ว...อังเดร" เขากลั้นใจดึงดาบสีเงินที่ปักที่หัวไหล่ออกก่อนจะเสียบมันเข้ากับร่างของเจ้าของดาบ
-ฉึก!-
ร่างที่นอนอยู่กระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะแน่นิ่งไป
"...แฮ่ก-แฮก!" ร่างของซิลไวน์เซเล็กน้อย ก่อนที่เด็กหนุ่มจะทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เขารู้ว่าตัวเองคงจะไม่รอดแน่...
“ไวน์!” ดาร์กกับเฟลลันวิ่งเข้ามาอีกครั้งหลังจากหมอกควันหายไปแล้วพบว่าคนที่สิ้นลมหายใจคืออังเดร!
“ไวน์! ไวน์! อย่าเป็นอะไรไปนะ” ดาร์กร้องเรียกอย่างร้อนรน เด็กหนุ่มมีลางสังหรณ์บางอย่างที่บ่งบอกว่าคนตรงหน้ากำลังจะจากเขาไป
“...อึ่ก...อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ...ดาร์ก” เสียงที่แหบพร่าของซิลไวน์เรียกให้น้ำใสๆไหลออกจากดวงเนตรสีอำพัน ...น้ำตา...ที่ดาร์กไม่เคยร้องมาตลอดสิบปี...
“ไวน์! แกจะต้องไม่เป็นอะไร! อดทนหน่อยนะ” เฟลลันคอยเขย่าเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้หลับแต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะซิลไวน์เสียเลือดไปค่อนข้างเยอะ
“...เฟล...ดูและดาร์ก..อึ่ก..ด้วยนะ” เสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้งเมื่อคนไม่เจียมตัวฝืนพูดขึ้นมา ซิลไวน์หันหน้ามาทางเด็กหนุ่มผมดำที่ยังไม่หยุดร้องไห้
“...ดาร์ก...เข้ม...แข็ง...นะ...อย่า...ร้อง...ไห้...” มือขาวซีดของซิลไวน์เอื้อมไปลูบหัวดาร์กเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะตกลงพื้น
-แปะ-
“ไวน์!!!” ดาร์กร้องลั่นพลางคว้ามือที่ตกลงพื้นนั้นมากุมเอาไว้ เฟลลันเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่น้ำใสๆจะไหลลงมาเป็นทาง
เอี๊ยด!
เสียงรถจอดสนิท เจ้านายเดินลงจากรถมาหยุดตรงหน้าของพวกเขา ตรงหน้าซิลไวน์ ที่หมดลมหายใจไปแล้ว
“...ดาร์ก...ไวน์เขาไปดีแล้ว...อย่าไปทรมานเขาเลยนะ” ชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยประโยคนั้นออกจากปากอย่างยากเย็น เพราะเขาเองก็พยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาเช่นกัน
...สายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย... ราวกับจะชโลมใจเด็กหนุ่มผมดำที่เพิ่งจะสูญเสียผู้ปรียบเสมือนพี่ชายไปในวันนี้ แต่มันก็คงไม่ช่วยอะไรในเมื่อหัวใจของเด็กหนุ่มมันแหลกสลายลงไปแล้ว...สลายไปพร้อมกับชีวิตของเด็กหนุ่มตรงหน้า...
---ส่งท้าย---
ณ สุสานแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีใครไปซักเท่าไหร่ เพราะมันเป็นสุสานของนักฆ่า อาชีพที่ผู้คนรังเกียจเดียดฉันท์กันมากมายเสียเหลือเกิน
ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่เบื้อหน้าหลุมศพของใครคนหนึ่ง ดอกกุหลาบสีขาวสิบสามดอกถูกวางหน้าหลุมศพนั้น เด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของดวงตาสีอำพันยิ้ม...ให้กับตนเองก่อนจะเอื้อนเอ่ยประโยคที่เคยสัญญาเอาไว้ออกมา
“ไวน์...น้ำตาหยดนี้จะเป็นน้ำตาหยดสุดท้ายของฉัน...จริงๆนะฉันสัญญา...” น้ำใสๆไหลลงบนดอกกุหลาบสีขาวเพียงหนึ่งหยด...
...หนึ่งหยด...เท่านั้นจริงๆ...
AND
้ในรูปมันเขียนว่าซีโร่ แต่เอามาเป็นซิลไวน์ เพราะมันตรงอิมเมจเด๊ะ
(จริงๆจะเอาไปเป็นซีโร่ก็ได้นะ...แต่มันแมนไปอ่ะ- -")
ผลงานอื่นๆ ของ 夏目(Natsume) ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ 夏目(Natsume)
ความคิดเห็น