[FAN FIC. FELINE] The Last Tear Of Black cat - [FAN FIC. FELINE] The Last Tear Of Black cat นิยาย [FAN FIC. FELINE] The Last Tear Of Black cat : Dek-D.com - Writer

    [FAN FIC. FELINE] The Last Tear Of Black cat

    ส่งแล้วเน้อเพื่อนๆ(ส่งก่อนเฉียดเส้นตาย2วัน เจริญตายล่ะ)- -"

    ผู้เข้าชมรวม

    1,024

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    1.02K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ค. 51 / 13:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      FanFic.Feline

      [The Last Tear of Black cat]

      น้ำตาหยดสุดท้ายของแมวดำ

       

      รอยแผลบนร่างกาย...มีวันที่จะหาย...

      ...ตราบใดที่ยังคงมีชีวิตอยู่...

      ...แต่รอยแผลที่ฝังรากลึกลงไปในหัวใจ...ไม่มีวันหาย...

      ...แม้ชีวิตนั้นจะหาไม่แล้วก็ตาม...

       

      ดวงจันทร์สีเหลืองนวลลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้า แสงสีทองของมันส่องกระทบนัยน์ตาสีอำพันเป็นปรกายของเด็กหนุ่มผมดำที่ยืนมองมันที่ระเบียง

      ใบหน้าหวานยามราตรีดูสวยงามราวเทพธิดา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเศร้าๆให้ตนเอง

      ...ไม่ว่ากี่ปี...รอยแผลนี้ก็ไม่เคยที่จะหายไป...

      มือเรียวยกขึ้นทาบอก

      ...รอยแผล...ที่เป็นตราบาป!!!...

      ดาร์ก เสียงนุ่มๆเรียกให้เด็กหนุ่มหันไปมอง เพื่อซี้ที่กำลังเดินถือแก้วนมร้อนๆมาให้

      ...

      เป็นอะไรไป? ฉันเห็นนายนั่งมองดวงจันทร์มาตั้งนานแล้วนะ

      เฟล...ดวงจันทร์สวยไหม?

      “!” คนถูกถามเอียงคองง? ไม่รู้มันจะเล่นอะไร

      ฉันถามว่าสวยไหม?

      ก็...สวย

      หรอ... ดาร์กเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์อีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปนอน

      อะไรของมันวะ? เฟลลันมองตามร่างเล็กที่กำลังเดินเข้าห้องไป แต่คำพูดที่ออกจากปากมันในตอนท้ายทำเอาเขาอยากกระโจนไปอัดกับมันให้รู้แล้วรู้รอด

      งั้นนายก็ไปแต่งงานกับดวงจันทร์ซะสิ!”

      ...หนอย! ... ไอ้หมอนี่!...

       

       

       

      ~วิ้ว~วิ้ว~

      เสียงใบไม้ไหวแผ่วๆยามเมื่อมีสายลมพัดผ่าน ร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มคนหนึ่งหย่อนเท้าลงบนหลังคาบ้านของใครก็ไม่รู้ นัยน์ตาสีหมอกมองตึกสูงเบื้องหน้าอย่างพิจรณา

      ถึงแล้วสินะ ริมฝีปากบางพึมพำ เมื่อแน่ใจว่าตึกสูงเบื้องหน้าคือที่ตั้งขององค์กร D.E.A.T.H.

      คิดถึงจังเลยแฮะ...ไม่ได้เจอกัน...ตั้งนาน นัยน์ตาสีหมอกแปรเปลี่ยนเป็นสีมรกต สีแห่งความยินดี เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็วราวกับสายลม

       

       

       

       

      ~โครม~

      เสียงตกเตียงดังสนั่นพร้อมเอ๊ฟเฟกต์ประกอบที่ชวนปวดหัว

       กร๊อบบบ!

      ซี่โครงของเฟลลันประท้วงลั่น เมื่อเจ้าเพื่อนตัวดีถีบเขาตกเตียงอย่างไม่ปราณีปราศรัย

      ไอ้ดาร์กกก!!!” เด็กหนุ่มตะโกนหมายหัวพร้อมกับพุ่งตัวหมายจะจับคนตรงหน้ามาลงโทษให้ได้

      ~ฟึ่บ~

      แต่มีหรือที่ร่างเล็กตรงหน้าเขาจะยอมให้ทำอะไรง่ายๆ ดาร์กเอี้ยวตัวหลบเล็กน้อยพร้อมกับเยื่นเท้ามาด้านหน้า...ลูกไม้ตื้นๆ แต่นั่นก็ทำให้อีกคนลงไปนอนวัดพื้นได้อีกรอบ

      ~โครม~

      ไปอาบน้ำได้แล้ว! ฉันจะไปรอที่ห้องเจ้านาย เขาพูดเรียบๆแต่ในดวงตาสีอำพันนั้นมีแววสนุกสนานที่ได้แกล้งคนตรงหน้า

      ชิ!” เฟลลันสบถแต่ก็ยอมลุกไปอาบน้ำโดยดี

      หึ!” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องไปยังห้องของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านาย

       

       

       

      ~แอ๊ด~

      ว่าไง! ดาร์ก

      ครับ เจ้านาย

      เจ้าเฟลล่ะ?

      อาบน้ำครับ

      หืม?

      ~แอ๊ด~

      มาแล้วๆ

      ดาร์ก! ฉันมีข่าวดีจะบอกนายนะ...

      ---เพล้ง---

      จู่ๆกระจกด้านหลังเจ้านายก็แตกละเอียด ลมวูบใหญ่พัดเข้ามาในห้อง

      ...นี่มันชั้น13นะ(เฟ้ย)!!!...

      เฟลลันคิดในใจขณะตั้งท่าเช่นเดียวกับดาร์ก

      เฮ้ย! ใจเย็นๆ...นี่! แกจะเข้ามาดีๆเหมือนชาวบ้านเขาบ้างไม่ได้รึไง(ฟะ) ค่าซ่อมกระจกมันแพงนะ(เฟ้ย)! ซิลไวน์... ชายหนุ่มหันไปพูดกับเด็กหนุ่มผมสีเทาร่างสูงที่เดินออกมาจากกลุ่มหมอกควันพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพึงพอใจกับผลงานที่ตัวเองสร้างวีรกรรมเอาไว้ (เฮ้ย! โรคจิต : คนเขียน) (งั้นเจอมีดซักเล่มไหม หึหึ : ซิลไวน์)

      ไวน์!!” ร่างเล็กของดาร์กวิ่งตรงเข้าไปกอดเด็กหนุ่มด้วยความโหยหา ในขณะที่คนตัวโตกว่ายืนมองอยู่แล้วจู่ๆก็แก้มกระตุก

      ...ไอ้หมอนี่มันเป็นครายยย!!!...

      ว่าไงดาร์ก! ไม่ได้เจอกันนานนะ ซิลไวน์ยิ้ม ดวงตาสีหมอกเปลี่ยนเป็นสีมรกต พลางลูบหัวเด็กหนุ่มตรงหน้าเฉกเช่นพี่ชายกำลังลูบหัวน้องสาว เอ๊ย! น้องชาย (พลั่ก อั่ก ผลัวะ : เสียงเอ๊ฟเฟคประกอบคนเขียนโดนดาร์กยำ)

      คิดถึงนายชะมัด...ว่าแต่นายไปอยู่ไหนมาน่ะ?

      ฉันก็เที่ยวของฉันไปเรื่อยๆแหละ พลันดวงตาสีมรกตก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนกำหมัดกัดฟันกรอดๆ ดวงตาสีสวยจึงเปลี่ยนเป็นสีอำพันสีแห่งความเจ้าเล่ห์ทันที

      ไวน์!

      หือ! มีอะไรหรอดาร์ก? ลำแขนแกร่งดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง คิ้วของเฟลลันกระตุกทันที แต่ดาร์กก็ยังคงไม่รู้เรื่อง

      เดี๋ยวเราไป...

      ฉันไม่อนุญาต!” เด็กหนุ่มตาดำตวาดทันที เรียกรอยยิ้มขำให้ปรากฏบนใบหน้าสวยของซิลไวน์

      นายรู้หรอ? ว่าฉันกับดาร์กจะไปไหน?

      --กึก

      เฟลลันสะดุดกึก ก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

      เออ! จะไปไหนก็เชิญ!” ว่าแล้วมันก็เดินกระแทกส้น(ตีน) ระบายอารมณ์ออกนอกห้องไป

      หึๆๆ ฮ่าๆๆ พอเด็กหนุ่มคล้อยหลังไป เจ้าคนตาเปลี่ยนสีได้ก็ปล่อยก๊ากทันที

      นิสัยเสียขึ้นนะไวน์ เจ้านายส่ายหัวระอาก่อนจะหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับมาเชล ซิลไวน์จึงหันมาคุยกับดาร์กต่อ

      เดี๋ยวเราออกไปเที่ยวสวนสนุกกันนะ

      อือ คนตัวเล็กยิ้มน้อยๆที่มุมปากพลอยทำให้คนตัวโตกว่ายิ้มตามไปด้วย ดวงตาของซิลไวน์เปลี่ยนเป็นสีมรกตอีกครา...สีแห่งความสุข

       

      ~ปัง---โครม~

      อ๊ากกก!!! ไอ้หมอนั่นมันเป็นครายยย!!!” เฟลลันโวยวายลั่นหลังจากกลับมานั่งในห้องนอนตัวเองเรียบร้อยแล้ว

      ...สนิทสนมกับดาร์กซะขนาดนั้นอ๊ากกก!!!...

      ฉันชื่อซิลไวน์...ยินดีที่ได้รู้จัก

      แต่ฉันไม่ยินดีด้วยว้อยยย!!!...เฮ้ย! แกเข้ามาได้ไง?!” ดวงตาสีนิลของเฟลลันเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่ตนกำลังกล่าวหานั่งอยู่บนเตียงนอนของดาร์ก

      ก็...เปิดประตูเข้ามาเดะ

      ไอ้...

      แล้ว...นายชื่อไรหรอ?

      เฟลลัน เด็กหนุ่มกระแทกเสีงตอบ ส่งผลให้ซิลไวน์อมยิ้ม

      เฟลลัน...ขอบใจนะที่ช่วยดูแลดาร์ก คำพูดชวนงง ทำให้เฟลลันเผลอจ้องดวงหน้าของคนพูดแล้วก็พบว่า...

      เฮ้ย!

      ดูท่าไอ้เจ้าคนพูดมันจะยังไม่รู้สึกตัวว่าตอนนี้ตามันเปลี่ยนสีอีกแล้ว...

      นี่! ตานาย...

      หือ!” ด้วยความตกใจทำให้ดวงตาเปลี่ยนกลับมาเป็นสีหมอกดังเดิม

      ทะ...ทำไมตาแกถึง...

      ...อ๋อ! มันก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าใส่ใจเลย ซิลไวน์โบกมือพลางยิ้ม

      ~แอ๊ด~

      ไวน์! ไปกินข้าวกัน เฟล! แกด้วย พอดีกับที่ดาร์กเป็นประตูมาเรียกเด็กหนุ่มทั้งสองคนอันมีคนหัวเทาและคนหัวน้ำตาล จึงต้องลุกเดินออกไปจากห้อง...

        

       

      ...บาป...ไม่อาจลบเลือนได้ด้วยกาลเวลา...

      ดวงตาสีอำพันดูเหม่อลอย จนเด็กหนุ่มผมเทาข้างๆเห็นผิดสังเกต

      ดาร์ก!”

      หือ!”

      เป็นอะไรรึเปล่า? ดวงตาสีเทาหมอกมองมาอย่างเป็นห่วง ดาร์กฝืนยิ้มให้ซิลไวน์ แต่รอยยิ้มที่ฝืนนั่นทำให้จู่ๆ ดวงตาสีหมอกก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินหม่นทันที

      ...นายยังไม่ลืม...เรื่องนั้นอีกหรอ?ดาร์ก ฉันลืมไปนานแล้วนะ…”

      โกหกใครจะลืมกัน

      ดาร์ก!” ดวงตาสีอำพันของดาร์กเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ซิลไวน์เอื้อมมือไปลูบหัวเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา

      เดี๋ยวฉันมานะ ดาร์กเดินผละออกไป...ดวงตาสีน้ำเงินหม่นของซิลไวน์มองตามร่างของเด็กหนุ่มที่เดินหายไป ก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอ่ยกับเด็กหนุ่มอีกคนที่ยังนั่งอยู่ข้างกาย

      เฟล...

      “!”

      นาย..อยู่กับดาร์กมานานหรือยัง

      หืม! ก็นานพอสมควรนะ

      หรอ...

      ...นายเป็นไรไปน่ะไวน์?เฟลลันถามพลางเอียงคอฉงน

      เปล่า...แล้วนายเคยรู้ไหม?  ว่าดาร์กมันมีรอยแผลลึกในใจที่ยากเกินเยียวยา"
               "..."



                ---สวนสนุก---
                 ดวงตาสีหมอกของไวน์เปลี่ยนเป็นสีขาวด้วยความกังวล เนื่องจากเด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงเค้าลางมรณะที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
                 "ไวน์!" ดาร์กวิ่งเข้ามาพร้อมกับตั๋วสองใบในมือ มีเฟลลันเดินตามหลังมา ดวงตาสีขาวจึงกลับมาเป็นสีหมอกอีกครั้ง
                 "หืม! จะเล่นอะไรล่ะ...รถไฟเหาะ..เป็นไง?" ดาร์กเหยียดยิ้มพลางเหลือบตามองเพื่อนร่างสูงข้างตัวที่หน้าเริ่มซีด
                 "ฉันว่าอย่า..."
                 "กลัวหรอเฟล..."
                 "ใครว่าฉันกลัว! เล่นก็เล่น!"
                 ...แล้วแกจะเสียใจเฟลลัน...



                 "ว้ากกก!!!" เฟลลันแหกปากลั่นเมื่อรถไฟนรกเคลื่อนออกจากชานชลา ผิดกับคนที่นั่งร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี
                 "มีหนึ่งศพ...ตบปาก...ลากตับ...สับม้าม...จามไต...ไส้ทะลัก...ควักลูกตา...กร๊ากกก!!!" (มันร้องเพลงอะไรหว่า = = :คนเขียน)
                 "แกหยุดร้องเดี๋ยวนี้นะไวน์!!!"
                 "กร๊ากกก!!! จกลิ้นปี่...บี้ท้อง...ดองกระดูก...ขูดมดลูก(หาพ่อเอ็งดิ!!!)...กร๊ากกก!!!"
                "อ๊ากกก! ไอ้ไวน์!!!"



                  อ้วก!
               "หึหึ!"
               "ไม่ต้องมาหัวเราะเลยแก"
               "ฮ่าๆๆ"
              "ไม่เป็นมั่งให้มันรู้ไปไอ้ไวน์!"
              "กร๊ากกก!!!"
              "พอเถอะน่า!" ดาร์กปรามไอ้คนตาเปลี่ยนสีได้ก่อนจะลูบหลังเฟลลันที่โก่งคออ้วกอยู่ที่ม้านั่ง
              ...นักฆ่าอะไรวะ!...ความดันต่ำ!...
              --วูบ--
              สายลมที่พัดผ่านเย็นยะเยือกผิดปกติจนซิลไวน์ต้องขมวดคิ้ว
              "ดาร์ก! พาเจ้าเฟลกลับองค์กรไปก่อนได้เลยนะ ฉันมีธุระน่ะ"
              "อ่ะ!...อืม" เมื่อได้รับคำสัญญาแล้วเด็กหนุ่มเจ้าของผมสีเทาหมอกก็เดินออกไป...
                     

       

       

      -ฟุ่บ-

      ออกมาเถอะน่า...ฉันไม่หนีหรอก เจ้าของดวงตาที่เปลี่ยนสีได้เอ่ยอย่างไม่ชอบใจ เมื่อแขกที่เป็นผู้เชิญเขาออกมาไม่ยอมโผล่หน้าออกมาซะที

      ~ครืด~ครืด~

      เสียงลากเท้าอย่างจงใจดังขึ้นเบื้องหลังของซิลไวน์ เด็กหนุ่มหันไปประจันหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

      ไม่ได้เจอกันนานนะ...ไวน์

      ...อือ...นับตั้งแต่วันที่นายฆ่าพี่สาวฉัน...

      หือ! คนที่ฆ่าพี่สาวนายน่ะมันเด็กที่ชื่อ...ดาร์กไม่ใช่หรอ? หึหึ

      -ปึ่ด-

      เส้นประสาทของซิลไวน์ขาดผึ่งทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นออกจากปากของเด็กหนุ่มผมทอง

      อย่ามาว่าดาร์กนะ

      แตะต้องไม่ได้เลยสินะ หึหึ

      แก!” ดวงตาสีหมอกแปรเปลี่ยนเป็นสีเพลิงด้วยอำนาจแห่งความกราดเกรี้ยว ไฟโทสะบดบังดวงตาของซิลไวน์จนหมดสิ้น

      คนที่ฆ่าพี่สาวฉัน มันจะต้องลงนรกวันนี้แหละ!”

      คนที่ทำลายองค์กรของฉัน มันจะต้องชดใช้เช่นกัน!”

      เด็กหนุ่มทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้าประทะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มีดสั้นสีดำขลับของซิลไวน์กับดาบสีเงินสวยของเด็กหนุ่มผมทอง

      วันนี้คือวันตายของแก อังเดร แรงประทะของทั้งคู่สูสีกัน แต่ซิลไวน์ใช้แค่เพียงมีดสั้นเท่านั้น

      แกต่างหาก! ไม่ใช่ฉัน!!!” ดวงตาสีอเมธิสต์ของเด็กหนุ่มผมทองวาวโรจน์  ซิลไวน์แสยะยิ้ม

      ...แล้วเราจะได้เห็นดีกัน

      ~เคร้ง!~

       

       

       

      ~เพล้ง~

      แก้วที่อยู่ในมือของเด็กหนุ่มผมดำร่วงหล่นลงกับพื้นแตกกระจาย ดวงตาสีอำพันเบิกกว้าง

      ...ไวน์!” ดาร์กสังหรณ์ใจยังไงชอบกลก่อนจะออกวิ่งไปทันที จนแม้แต่เฟลลันที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ยังงง

      ดาร์ก! จะไปไหนน่ะ? คนตรงหน้าไม่ตอบทำให้เขาต้องวิ่งตามไปอีกคน

       

       

       

      ~เคร้ง~เคร้ง~

      ดาบสีเงินสวยร่วงหล่นลงกับพื้น การต่อสู้จบลงแล้ว...ซิลไวน์เหยียดยิ้มสมเพช

      มันจบแล้ว...อังเดร

      ไวน์! เสียงร้องเรียกดังลั่นด้วยความเป็นห่วง ร่างของเด็กหนุ่มผมดำที่เขาคุ้นตากำลังวิ่งตรงมาหาเขา

      มันยังไม่จบหรอก...ไวน์ เสียงแหบพร่าดังขึ้นข้างหู ซิลไวน์กระตุกวูบก่อนจะเอี้ยวตัวหลบคมดาบ แต่มันก็สายเกินไป

      ฉึก!

      ตัวดาบสีเงินสวยฝังลึกลงไปในผิวขาวของซิลไวน์ ดวงตาสีเพลิงเปลี่ยนเป็นสีฟ้าด้วยความตกใจ

      ไวน์!!!” ดาร์กร้องเสียงหลงพลางวิ่งถลาจะเข้ามาดู แต่กลับถูกเฟลลันรั้งเอาไว้

      ~ฉวัะ~

      อังเดรกระชากดาบออกจากร่างของซิลไวน์อย่างไม่ใยดี ร่างสูงค่อยๆล้มลงกับพื้น

      ~โครม~

      ไวน์!” ดาร์กกระชากแขนตัวเองออกจากมือของเฟลลันได้สำเร็จก็ถลาเข้าไปดูอาการเพื่อนก่อนจะหันมาประจันหน้ากับเด็กหนุ่มผมทองที่เป็นคนแทง

      ...อังเดร... ริมฝีปากบางพึมพำ

      ขอบใจที่ยังจำกันได้...ดาร์ก อังเดรเหยียดยิ้ม

      ... เฟลลันได้แต่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ เขาฟังเรื่องตราบาปของดาร์กมาจากเจ้านายบ้างแล้ว และตอนที่ซิลไวน์นั่งกินข้าวกับเขา...หมอนั่นก็เล่าให้เขาฟังอย่างละเอียด

       

       

       

      ก่อนที่เจ้านายจะมาเจอและเก็บดาร์กไปเลี้ยง ดาร์กเคยอาศัยอยู่กับครอบครัวของไวน์ที่เป็นเด็กกำพร้า ซิลไวน์มีพี่สาวอยู่คนหนึ่งชื่อว่าซิลเวียร์

      เมื่อก่อนองค์กรมาเฟียเล็กๆยังไม่ถูกปราบปราม ซิลไวน์และดาร์กจึงต้องเรียนศิลปะป้องกันตัวเอาไว้เพื่อปกป้องซิลเวียร์

      ดาร์กกับไวน์เคยบุกไปถล่มแก๊งมาเฟียแก๊งหนึ่ง ซึ่งหัวหน้าแก๊งเป็นเพียงเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ทั้งสองคนชนะ และยุบแก๊งมาเฟียนั้นไป แต่ต่อมาไม่นาน ระหว่างที่ทั้งสองคนออกไปหางานทำในตัวเมือง พวกมาเฟียที่ผูกใจเจ็บ ได้รวมตัวกันมาถล่มบ้านของพวกเขาซึ่งในตอนนั้น มีซิลเวียรือยู่เพียงคนเดียว

      เมื่อดาร์กกับไวน์กลับมาถึงก็ได้ต่อสู้กับพวกมันจนดาร์กเกือบจะพลาดท่า ซิลเวียร์ที่เข้ามารับคมดาบแทนจึงต้องตาย

      เหตูการณ์ครั้งนั้น ทั้งซิลเวียร์และซิลไวน์ไม่เคนคิดโทษโกรธเคืองดาร์ก แต่เจ้าตัวกลับรู้สึกผิดอย่างมหันต์ หลังเสร็จงานศพของซิลเวียร์ จึงไม่มีใครเห็นเด็กหนุ่มอีกเลย...จนกระทั่ง ซิลไวน์ที่ทำงานให้กับองค์กรD.E.A.T.H. ได้รับจดหมายเรียกตัวให้ไปที่องค์กร เขาได้พบภาพของเด็กหนุ่มวัยสิบปีที่กำลังฝึกซ้อมอย่าขะมักเขม้น มันเป็นภาพที่ทำให้ซิลไวน์ยิ้มออก ...ดาร์กสบายดี...เขาไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีก...แต่ซิลไวน์กลับลืมเรื่องสำคัญอีกอย่างไป...เขาลืมไป...ว่าตราบาป...ไม่เคยหายไปด้วยกาลเวลา...

       

       

      ~เคร้ง~

      เสียงดาบสีเงินประทะมีดสั้นสีเงินสวยของดาร์กเรียกสติเฟลลันให้กลับมาสู่ความเป็นจริง  เขามองเห็นซิลไวน์กำลังพยุงตัวเองขึ้นอย่างยากลำบากจึงวิ่งเข้าไปช่วย

      เฟล... คนหัวเทาเรียกเสียงแผ่วทำเอาเขาใจไม่ค่อยดี

      อะไร!”

      ไปหยุดดาร์ก มันสู้กับอังเดรไม่ได้หรอก เฟลลันมองหน้าคนเจ็บอย่างชั่งใจแต่สุดท้ายก็ต้องไปเพราะสายตาที่เอาจริงของซิลไวน์

       

      ~พลั่ก~

      โอ๊ย!

      ดาร์กกุมท้องที่โดนต่อยอย่างจังพลางเอี้ยวตัวหลบดาบที่ฟันลงมา

      ~เคร้ง~

      มีดสั้นสีดำขลับของใครบางคนพุ่งเข้ามาได้ทันก่อนที่ดาบนั้นจะโดนตัวเขา ซิลไวน์เดินกุมแผลที่สีข้างเข้ามาอย่างทุลักทุเล

      การต่อสู้ของฉันนายไม่เกี่ยว...ดาร์ก

      แต่ว่า!”

      ไม่มีแต่...เฟล...มาเอาดาร์กออกไป เด็หนุ่มเจ้าขจองดวงตาสีนิลรีบวิ่งมาอุ้มคนตัวเล็กออกไป โดยมีสายตาของซิลไวน์มองตาม

      ห่วงจังนะ แต่...ไม่ต้องห่วงไปหรอกเพราะส่งแกลงนรกเสร็จฉันก็จะส่งเจ้านั่นตามไป คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ซิลไวน์แสยะยิ้ม

      ถ้าทำได้ก็เอาสิ ร่างกายของเด็กหนุ่มถูกเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วจนไปอยู่ประชิดตัวของอังเดรเพียงเวลาไม่กี่วินาที มีดสั้นสีดำขลับจ้วงลงไปที่ตำแหน่งหัวใจแต่ฝ่ายโน้นหลบได้มันจึงพลาดไปปักที่ท้องแทน

      ฉึก!

      ร่างสูงของอังเดรเริ่มกระตุก เมื่อซิลไวน์ดึงมีดออก ร่างของเด็กหนุ่มก็ล้มลง

      ~โครม~

      แฮ่ก-แฮ่ก เสียงหอบหายใจเป็นระยะดังขึ้นทันทีที่เด็กหนุ่มเอามือยันพื้นเพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้ม ซิลไวน์เริ่มรับรู้ถึงผลข้างเคียงที่เขาได้ฝืนใช้ความเร็วทั้งๆที่ร่างกายแย่  เลือดไหลตามบาดแผลเป็นทางยาวทั้งแผลเล็กและเเผลใหญ่่่

      "อึ่ก! แก!" เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ายังไม่ตายซิลไวน์ก็เตรียมที่จะแทงซ้ำ แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะรู้จึงแทงสวนเข้ามา
                ฉึก!
               เนื่องจากระยะที่ห่างกันทำให้มีดสั้นของซิลไวน์เสียเปรียบ เขาจึงเลือกที่จะเสี่ยง...
               ...ด้วยการปามีดไปที่ตำแหน่งหัวใจ!...
               "อึ่ก! ซิลไวน์แก!..."
               "พอเถอะ...ไปสบายได้แล้ว...อังเดร" เขากลั้นใจดึงดาบสีเงินที่ปักที่หัวไหล่ออกก่อนจะเสียบมันเข้ากับร่างของเจ้าของดาบ
                -ฉึก!-
                ร่างที่นอนอยู่กระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะแน่นิ่งไป
                "...แฮ่ก-แฮก!" ร่างของซิลไวน์เซเล็กน้อย ก่อนที่เด็กหนุ่มจะทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เขารู้ว่าตัวเองคงจะไม่รอดแน่...
               “ไวน์!” ดาร์กกับเฟลลันวิ่งเข้ามาอีกครั้งหลังจากหมอกควันหายไปแล้วพบว่าคนที่สิ้นลมหายใจคืออังเดร!

      ไวน์! ไวน์! อย่าเป็นอะไรไปนะดาร์กร้องเรียกอย่างร้อนรน เด็กหนุ่มมีลางสังหรณ์บางอย่างที่บ่งบอกว่าคนตรงหน้ากำลังจะจากเขาไป

      ...อึ่ก...อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ...ดาร์ก เสียงที่แหบพร่าของซิลไวน์เรียกให้น้ำใสๆไหลออกจากดวงเนตรสีอำพัน ...น้ำตา...ที่ดาร์กไม่เคยร้องมาตลอดสิบปี...

      ไวน์! แกจะต้องไม่เป็นอะไร! อดทนหน่อยนะ เฟลลันคอยเขย่าเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้หลับแต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะซิลไวน์เสียเลือดไปค่อนข้างเยอะ

      ...เฟล...ดูและดาร์ก..อึ่ก..ด้วยนะ เสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้งเมื่อคนไม่เจียมตัวฝืนพูดขึ้นมา ซิลไวน์หันหน้ามาทางเด็กหนุ่มผมดำที่ยังไม่หยุดร้องไห้

      “...ดาร์ก...เข้ม...แข็ง...นะ...อย่า...ร้อง...ไห้... มือขาวซีดของซิลไวน์เอื้อมไปลูบหัวดาร์กเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะตกลงพื้น

      -แปะ-

      ไวน์!!!” ดาร์กร้องลั่นพลางคว้ามือที่ตกลงพื้นนั้นมากุมเอาไว้ เฟลลันเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่น้ำใสๆจะไหลลงมาเป็นทาง

      เอี๊ยด!

      เสียงรถจอดสนิท เจ้านายเดินลงจากรถมาหยุดตรงหน้าของพวกเขา ตรงหน้าซิลไวน์ ที่หมดลมหายใจไปแล้ว

      ...ดาร์ก...ไวน์เขาไปดีแล้ว...อย่าไปทรมานเขาเลยนะ ชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยประโยคนั้นออกจากปากอย่างยากเย็น เพราะเขาเองก็พยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาเช่นกัน

      ...สายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย... ราวกับจะชโลมใจเด็กหนุ่มผมดำที่เพิ่งจะสูญเสียผู้ปรียบเสมือนพี่ชายไปในวันนี้ แต่มันก็คงไม่ช่วยอะไรในเมื่อหัวใจของเด็กหนุ่มมันแหลกสลายลงไปแล้ว...สลายไปพร้อมกับชีวิตของเด็กหนุ่มตรงหน้า...

       

       

       

       

      ---ส่งท้าย---

      ณ สุสานแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีใครไปซักเท่าไหร่ เพราะมันเป็นสุสานของนักฆ่า อาชีพที่ผู้คนรังเกียจเดียดฉันท์กันมากมายเสียเหลือเกิน

      ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่เบื้อหน้าหลุมศพของใครคนหนึ่ง ดอกกุหลาบสีขาวสิบสามดอกถูกวางหน้าหลุมศพนั้น เด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของดวงตาสีอำพันยิ้ม...ให้กับตนเองก่อนจะเอื้อนเอ่ยประโยคที่เคยสัญญาเอาไว้ออกมา

      ไวน์...น้ำตาหยดนี้จะเป็นน้ำตาหยดสุดท้ายของฉัน...จริงๆนะฉันสัญญา... น้ำใสๆไหลลงบนดอกกุหลาบสีขาวเพียงหนึ่งหยด...
      ...หนึ่งหยด...เท่านั้นจริงๆ...

       

       

       

       

      AND






      ในรูปมันเขียนว่าซีโร่ แต่เอามาเป็นซิลไวน์ เพราะมันตรงอิมเมจเด๊ะ
      (จริงๆจะเอาไปเป็นซีโร่ก็ได้นะ...แต่มันแมนไปอ่ะ- -")






      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×